บทความสุขภาพ

มะเร็งเต้านม

มะเร็งอันดับ 1 ของผู้หญิง : มะเร็งเต้านม

โรคมะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก และในปัจจุบันผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมสูงเป็นอันดับ 1 มากกว่ามะเร็งปากมดลูกโดยพบประมาณ 30 ราย ต่อประชากร 100,000 ราย โดยสถิติของประเทศไทยพบมะเร็งเต้านม (22.8%) ตามมาด้วยมะเร็งลำไส้ (10.7%) และมะเร็งปากมดลูก (9.4%) (ข้อมูลจาก Global Cancer Statistics ปี 2020) ซึ่งกล่าวได้ว่ามะเร็งเต้านมเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้หญิงมาก ๆ ดังนั้นเราจึงควรมาทำความรู้จักกับสาเหตุและอาการ รวมถึงการรักษาของโรคนี้ให้มากขึ้น เพราะหากตรวจพบในระยะแรก โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็สูงมาก

มะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร

เต้านม ประกอบไปด้วยต่อมน้ำนม ท่อน้ำนม ไขมัน เส้นเลือด ต่อมน้ำเหลือง เต้านมวางอยู่บนกล้ามเนื้อหน้าอกและซี่โครง มีหน้าที่ในการสร้างน้ำนม โดยเต้านมจะขยายขนาดตอบสนองกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งผลิตจากรังไข่เป็นหลัก

มะเร็งเต้านม เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก หากไม่ได้รับการรักษา มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่น ๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด

สาเหตุของการเกิดมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านม ส่วนใหญ่แล้วไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีหลายปัจจัยที่เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม ดังนี้

  • อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะเสี่ยงมากขึ้น
  • มีประวัติครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม ได้แก่ พ่อ แม่ ลูก และพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
  • ประจำเดือนเริ่มมาตั้งแต่อายุน้อย (มาก่อนอายุ 12 ปี)
  • หมดประจำเดือนช้า (อายุมากกว่า 55 ปีแล้วยังไม่หมดประจำเดือน)
  • การกินยาฮอร์โมนวัยทอง หรือใช้ยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
  • เคยได้รับการฉายรังสี ที่หน้าอก

อาการของมะเร็งเต้านม

  • มะเร็งเต้านม อาการเตือนของมะเร็งในระยะแรก คือ คลำพบก้อนในเต้านม
  • มีของเหลวออกจากบริเวณหัวนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเลือด โอกาสการเป็นมะเร็งจะเพิ่มขึ้น
  • มีความผิดปกติของผิวหนังบริเวณเต้านม โดยผิวหนังมีลักษณะคล้ายผิวส้ม หรือมีรอยบุ๋มที่ผิวหนัง หรือเต้านมผิดรูปร่างไปจากเดิม
  • ความผิดปกติของหัวนม เช่น เป็นแผลที่หัวนม
  • มีอาการเจ็บเต้านม (ก้อนมะเร็งส่วนใหญ่มักไม่เจ็บ เว้นแต่ก้อนมีขนาดโตมาก เกิดเนื้อตาย มีการอักเสบติดเชื้อ ดังนั้น การที่ไม่มีอาการเจ็บบริเวณเต้านม ไม่ได้แปลว่าไม่เป็นมะเร็งเต้านม)
  • มะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น จะไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่สามารถตรวจพบได้จากการทำแมมโมแกรม (Mammography) หรืออัลตราซาวนด์ (Ultrasound)

การวินิจฉัยมะเร็งเต้านม

ในการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม เบื้องต้นสามารถตรวจเต้านมด้วยตัวเองได้ด้วยการคลำเต้านมทุกเดือนตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ หลังหมดประจำเดือน 2-3 วัน เนื่องจากจะคัดเต้านมน้อย และเมื่อมาพบแพทย์ แพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย ร่วมกับการส่งตรวจทางรังสีวิทยา ได้แก่

  • การตรวจเอกซเรย์ด้วยเครื่องแมมโมแกรม (Mammogram) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม ทำในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 35 ปี โดยสามารถตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
  • การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ (Ultrasound) ทำในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 35 ปี
  • เมื่อพบก้อนเนื้อหรือจุดผิดปกติ แพทย์จะทำการเจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy) ถ้าผลเป็นมะเร็งเต้านมก็จะทำการผ่าตัดรักษาต่อไป

การป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม

  1. ผู้หญิงทุกคนควรรู้จักการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และเฝ้าระวังอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจบ่งถึงมะเร็งเต้านมได้
  2. ควรหมั่นตรวจสุขภาพ คัดกรองมะเร็งเป็นประจำ หรือควรเข้ารับการตรวจโดยแพทย์ทุกปี หลังจากที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
  3. หากคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง การเข้ารับการตรวจกรรมพันธุ์ก่อมะเร็ง หรือการตรวจยีนหาความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ถือเป็นอีกวิธีการเฝ้าระวังการเกิดมะเร็งในอนาคตได้